สำหรับพนักงานในออฟฟิศที่มีสภาพแวดล้อมและชีวิตที่เอื้ออำนวย การดูแลสุขภาพฟันอาจไม่ได้ถูกให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามวัยทำงานต้องพบปะกับผู้คนมากมาย หากฟันผุ หรือมีปัญหากลิ่นปาก อาจทำให้ความมั่นใจหายไป ประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลง แถมเงินเดือนก็อาจต้องเอาไปใช้จ่ายกับค่ารักษาฟันอีก ดังนั้นควรได้รับการดูแลที่ดี เพื่อคงความแข็งแรง และมีสุขภาพดี
ปัญหาสุขภาพช่องปากที่วัยทำงานพบบ่อย มีอะไรบ้าง
1. ฟันผุ
วิธีแก้ไข : ปัญหาฟันผุมักเกิดจากการแปรงฟันไม่ทั่วถึงทุกบริเวณ แก้ได้ด้วยการใช้ไหมขัดฟัน หรือแปรงฟันหลังมื้ออาหาร พยายามเลี่ยงการทานอาหารที่มีแป้งกับน้ำตาลแบบถี่ ๆ
2. ปัญหากลิ่นปาก
วิธีแก้ไข : ปัญหากลิ่นปากสามรถแก้ไขได้ด้วยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้น้ำยาบ้วนปากเข้าช่วย และการแปรงลิ้นก็เป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการแปรงฟันที่จะทำให้ปัญหากลิ่นปากลดลง ที่สำคัญเมื่อพยายามดูแลตัวเองแล้วไม่หายควรพบทันตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติม
3. ฟันเหลือง
วิธีแก้ไข : พฤติกรรมของพนักงานออฟฟิศหลายคนมักจะมีการสูบบุหรี่ ดื่มชา กาแฟ อาจทำให้ฟันเป็นคราบเหลืองได้ โดยปัญหานี้ควรพยายามหลีกเลี่ยงขนมที่มีน้ำตาลมากเกินไป, เครื่องดื่มชา กาแฟ รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ต้องสังเกตความผิดปกติภายในช่องปาก ถ้าหากเกิดความผิดปกติจะได้รับการรักษาได้ทันเวลา ทำให้สามารถขจัดคราบติดแน่นได้เป็นอย่างดี หรืออาจปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับการฟอกสีฟันเพิ่มเติม
4. ฟันสึกกร่อน
วิธีแก้ไข : ปัญหานี้มักเกิดในชีวิตคนวัยทำงาน ที่เป็นวัยที่มักจะมีความเครียดจากการทำงาน จนอาจจะเกิดอาการนอนกัดฟันแบบไม่รู้ตัว หากเป็นไปนานๆ ก็ส่งผลให้ฟันสึกกร่อนนั่นเอง โดยวิธีการรักษา คือการทำเฝือกสบฟันเพื่อลดแรงที่ลงต่อฟันและข้อต่อขากรรไกร
5. คราบหินปูนและเหงือกอักเสบ
วิธีแก้ไข : เรื่องของหินปูน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุก วิธีการป้องกันง่ายๆ คือ ขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน บางบริษัทมีสวัสดิการของการทำฟันไว้ ก็เพื่อให้พนักงานใส่ใจกับการดูแลช่องปาก เพราะฉะนั้นใช้สิทธิของท่านในการดูแลฟัน ดีกว่าต้องมาโรคฟันในอนาคต TDH Dental อยากให้ทุกคนดูแลรักษาสุขภาพฟันให้ดี
6. ปัญหาของโรคเหงือก
วิธีแก้ไข : สามารถรักษาได้ด้วยการขูดหินปูน เกลารากฟัน หรือผ่าตัดสร้างเนื้อเยื่อปริทันต์ขึ้นมาใหม่ โรคปริทันต์โรคเหงือกมีโอกาสเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสัญญาณใดบอกล่วงหน้าเป็นเหตุผลว่าทำไมการตรวจสุขภาพฟันและการตรวจโรคปริทันต์ถึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ที่คุณหมอ TDH แนะนำ
1. หมั่นดูแลสุขภาพช่องปากให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
วิธีนี้ก็ง่ายๆ และเหมาะตรงความต้องการด้านสุขภาพของคุณเอง เช่น หากคุณกำลังทานยาที่มีฤทธิ์ทำให้ปากของคุณแห้ง คุณก็ควรใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เป็นต้น คุณควรแปรงฟันสองครั้งต่อวัน หรือใช้การแปรงฟันแห้ง และทำการขัดฟันด้วยไหมขัดฟันทุกวัน
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
ส่วนผสมที่มีฟลูออไรด์ช่วยป้องกันการสึกหรอของฟันทั้งในผู้ใหญ่และเด็กอีกด้วย จึงทำให้ฟลูออไรด์มีประโยชน์ต่อผู้คนทุกเพศทุกวัย ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากส่วนมากมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ แต่หากจำเป็นจริง ๆ คุณก็สามารถขอให้ทันตแพทย์จ่ายเจล น้ำยาบ้วนปาก หรือยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์เข้มข้นพิเศษให้คุณใช้ได้เช่นกัน
3. หลังจากแปรงฟันควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งกำจัดเพื่อคราบแบคทีเรีย
การแปรงฟันอย่างน้อยสองครั้งต่อวัน กับการขัดฟันอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อวันเป็นหลักปฏิบัติสำคัญที่ช่วยรักษาสุขภาพในช่องปากของคุณให้ดีอยู่เสมอ กิจวัตรเหล่านี้ช่วยคราบแบคทีเรีย ซึ่งเป็นการสะสมและก่อตัวกันของแบคทีเรียบนฟันของคุณ ซึ่งหากไม่ได้กำจัดมันเป็นประจำ มันจะก่อตัวจนแข็งและพัฒนากลายเป็นคราบหินปูน ซึ่งหากปล่อยให้หินปูนดังกล่าวแข็งตัว ต้องให้ทันตแพทย์เป็นคนจัดการ
4. งดการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ทั้งแบบมีควันหรือไม่มีควันจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหงือกอักเสบ โรคฟันผุ โรคปริทันต์ และมะเร็งช่องปาก อีกทั้งการสูบบุหรี่ยังทำให้เกิดกลิ่นปาก และเปลี่ยนสีฟันของคุณได้
5. พบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความสะอาด หมั่นตรวจเช็คสุขภาพช่องปาก อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของทุกคน
TDH Dental เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบ ไม่ว่าจะเป็น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) จัดฟันด้านใน Brava by Brius ฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง