ข้อปฏิบัติหลังและระหว่างติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ

          การดูแลช่องปากหลังติดเครื่องมือจัดฟัน ต้องทำความสะอาดฟันอย่างสม่ำเสมอหลังอาหารทุกมื้อ โดยใช้แปรงสำหรับคนจัดฟันและไหมขัดฟันร่วมด้วย, หลีกเลี่ยงอาหารแข็งเหนียวหรือกรอบ, และใช้ขี้ผึ้งจัดฟันช่วยลดการระคายเคืองที่เกิดจากเครื่องมือ หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ และต้องไปพบทันตแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจเช็คสุขภาพช่องปากและขูดหินปูน

การทำความสะอาดช่องปาก

ㆍแปรงฟัน: แปรงฟันทุกครั้งหลังอาหารและก่อนนอน ด้วยแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟันโดยเฉพาะ

ㆍใช้ไหมขัดฟัน: ทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟัน (อาจใช้ไหมขัดฟันชนิดพิเศษหรือห่วงร้อยไหมสำหรับจัดฟัน) อย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่

ㆍใช้แปรงซอกฟัน: ใช้แปรงซอกฟัน (Proxabrush) เพื่อทำความสะอาดบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง เช่น ซอกฟันและรอบแบร็กเก็ต

ㆍใช้ผลิตภัณฑ์ฟลูออไรด์: เลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ช่วยป้องกันฟันผุ

ㆍบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ: การบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ สามารถช่วยลดแผลร้อนในและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

ㆍอาหารแข็ง: เช่น ก้อนน้ำแข็ง ถั่ว

ㆍอาหารเหนียว: เช่น หมากฝรั่ง ปลาหมึก

ㆍอาหารกรอบ: เช่น แคบหมู

ㆍการกัดอาหาร: ไม่ควรใช้ฟันหน้ากัดอาหารแข็ง เช่น ฝรั่ง มะม่วง ชมพู่ ควรหั่นเป็นชิ้นพอดีคำแล้วใช้ฟันหลังเคี้ยวแทน

การดูแลเมื่อมีปัญหา

ㆍเครื่องมือหลุดหรือลวดงอ: ติดต่อคลินิกทันตกรรมทันทีเพื่อแก้ไข หากเครื่องมือหลุดโดยไม่ระมัดระวัง ครั้งแรกอาจไม่มีค่าบริการ แต่ครั้งต่อ ๆ ไปอาจมีค่าใช้จ่าย

ㆍแผลระคายเคือง: ปั้นขี้ผึ้งจัดฟันเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วแปะทับกับบริเวณที่เสียดสีกับเครื่องมือจัดฟัน หรือปรึกษาทันตแพทย์

ㆍอาการปวดฟัน: อาการปวดฟันหรือฟันโยกเล็กน้อยในช่วง 3-7 วันแรกเป็นอาการปกติ สามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือ ไอบูโพรเฟนได้ (ควรปรึกษาทันตแพทย์เรื่องปริมาณยาที่เหมาะสม)

สิ่งที่ควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ

ㆍพบทันตแพทย์ตามนัด: เพื่อตรวจเช็คและรับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

ㆍขูดหินปูน: ควรขูดหินปูนและตรวจฟันผุทุก ๆ 6 เดือน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหงือกอักเสบและฟันผุมากกว่าคนทั่วไป
ㆍใส่รีเทนเนอร์: หากจัดฟันเสร็จแล้ว ต้องใส่รีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันกลับมาเคลื่อนที่