ใครที่เหมาะสำหรับการใส่รากฟันเทียม มาเช็คกัน

ฟันคืออวัยสำคัญที่ต้องทำหน้าที่บดเคี้ยวอาหาร และยิ้มได้อย่างมั่นใจเมื่อมีสุขภาพฟันที่ดี แต่เมื่อไหร่ที่สูญเสียฟันไปนอกจากจะส่งผลเสียต่อช่องปากแล้วยังทำให้ขาดความมั่นใจ จนไม่กล้ายิ้ม และหัวเราะได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการทำ “รากฟันเทียม” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้กลับมามีฟันที่สวยงาม ยิ้มได้อย่างมั่นใจได้อีกครั้ง

รากฟันเทียม คืออะไร

รากฟันเทียม (Implant) คือ วัสดุโลหะไทเทเนียมที่ฝังลงในกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนส่วนที่เป็นรากฟันของธรรมชาติที่สูญเสียไป หรืออีกชื่อหนึ่งคือการทำทันตกรรมรากเทียม เป็นการรักษาโดยการผ่าตัดใส่วัสดุทดแทนฟัน และรากฟันแท้ที่ถูกถอนออกไปเนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ ในการทำทันตกรรม ซึ่งวัสดุที่ว่านี้มีส่วนประกอบที่ทำมาจาก “ไทเทเนียม (Titanium)” เป็นหลักจึงมีความแข็งแรงปลอดภัยต่อร่างกาย

ไทเทเนียมเป็นโลหะที่พิเศษ จะยึดติดกับกระดูกโดยไม่มีชั้นใดๆ มาขวางกั้น การที่ไทเทเนียมยึดแน่นกับกระดูกนี้ เรียกกันว่า Osseointegration ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของไทเทเนียมคือ มันจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ร่างกายยอมรับได้ดี ไม่มีการอักเสบของเนื้อเยื่อช่องปาก และเพราะคุณสมบัติที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในร่างกายมนุษย์ จึงมีการใช้ไทเทเนียมกันอย่างกว้างขวางในทางการแพทย์ เช่น การฝังเข้าไปในสะโพก หัวเข่า ฯลฯ

รากฟันเทียม คือ

ใครที่เหมาะใส่รากฟันเทียมบ้าง

  1. รากฟันเทียมสามารถทำได้ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 21 ปี ขึ้นไปที่มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะรับการผ่าตัดในช่องปากได้อย่างปลอดภัย ในกรณีวัยรุ่นมีการเจริญเติบโตของกระดูกขากรรไกรจึงจำเป็นต้องรอให้ขากรรไกรหยุดการเจริญเติบโตก่อนจึงจะสามารถใส่รากฟันเทียมได้
  2. ผู้ที่สูญเสียฟันหนึ่งซี่ หรือบางส่วนของขากรรไกร
  3. ผู้ที่มีอายุ 18 ขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงที่ขากรรไกรเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว มีปริมาณกระดูกเพียงพอต่อการฝังรากเทียม หรือสามารถผ่าตัดเสริมกระดูกได้
  4. มีสุขภาพเนื้อเยื่อและเหงือกที่ดี ไม่มีภาวะที่ส่งผลต่อการหายของแผลในเนื้อกระดูก
  5. ผู้ที่ไม่สามารถใช้ฟันเทียมถอดได้
  6. ผู้ที่มีปัญหาหรือจุดบกพร่องทางสุขภาพปากอันเนื่องเกิดจากโรคการทําศัลยกรรมหรือได้รับบาดเจ็บทางปากและฟัน

ใครที่ไม่ควรใส่รากฟันเทียมบ้าง

  1. ผู้ที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี เนื่องจาก กระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
  2. ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคมะเร็งที่ต้องฉายรังสีบนใบหน้าและช่องปาก, โรคเหงือกอักเสบรุนเเรง เป็นต้น
  3. ผู้หญิงที่มีภาวะตั้งครรภ์ สามารถทำได้จากหลังคลอดเสร็จเเล้ว
  4. ผู้ที่มีอาการอื่นจากการรักษาที่ไม่ได้ผล เช่น ผู้ที่รับยากดภูมิคุ้มกัน หรือผู้ที่มีไขข้ออักเสบรุนเเรง
  5. ผู้ที่กินยารักษาภาวะกระดูกพรุน กระดูกบาง

ทำรากฟันเทียมที่ไหนดี ?

การทำรากฟันเทียมจำเป็นต้องได้รับการรักษากับทันตแพทย์ที่มีเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เนื่องจากโครงสร้างในช่องปากของแต่คนแตกต่างกัน จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ความชำนาญของแพทย์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ในการรักษาและประเมินอาการผู้ป่วย เช่น ประเมินปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อความสวยงาม เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ได้แก่การเลือกใช้ขนาดของรากเทียมที่เหมาะสม การเลือกจำนวนของรากเทียมที่เหมาะสม ความแม่นยำเหมาะสมในการวางตำแหน่งรากฟันนั่นเอง
ทำรากฟันเทียม ที่ TDH Dental กับทันตแพทย์เฉพาะทาง

การใส่รากฟันเทียมที่คลินิกทันตกรรม TDH Dental ดำเนินการโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดังนั้นจึงทำให้คนไข้รู้สึกมั่นใจในทุกกระบวนการของการใส่รากฟันเทียมได้ และที่สำคัญยังเลือกใช้แต่รากฟันเทียมวัสดุคุณภาพดี ปลอดภัย ยิ่งช่วยเพิ่มให้การใส่รากฟันเทียมติดแน่น คงทนยิ่งกว่าการใส่ฟันปลอม ทำให้คนไข้สามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวฟันหลุดในระหว่างเคี้ยวอาหารอีกต่อไป

หากคุณอยากหาผู้ช่วยสำหรับดูแลสุขภาพช่องปาก สามารถขอคำปรึกษาออนไลน์ด้วย Dentist Anywhere by TDH Dental ประสบการณ์ใหม่ของวงการบริการทันตกรรม ที่คุณจะได้พูดคุยปรึกษาปัญหาสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ได้โดยตรง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เวลาใดก็ได้ เพียงเท่านี้การดูแลช่องปากและฟันก็กลายเป็นเรื่องง่าย