แนะนำอาหารบำรุงฟันเด็ก ป้องกันฟันผุให้ลูกๆ
การดูแลใส่ใจดูแลสุขภาพของฟันเป็นเรื่องสำคัญในการเติบโตของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงไม่ต้องสงสัยว่าการดูแลฟันให้ลูกน้อย เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรละเลยเลย แต่หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกอาหารแบบไหนที่เหมาะกับเด็กเล็ก หรือยังไม่ทราบว่าอาหารบำรุงฟันสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง และจะมีผลต่อลูกน้อยอย่างไร ในบทความนี้ TDH Kids จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักกับอาหารบำรุงฟันลูกน้อย และช่วยป้องกันฟันผุให้ลูก ๆ ทั่งช่วยเสริมโภชนาการและได้ดูแลฟันของลูกๆ ไปพร้อมกัน
แนะนำอาหารบำรุงฟันสำหรับเด็ก มีอะไรบ้าง
1. อาหารที่มีแคลเซียม
อาหารที่มีแคลเซียมจะช่วยสร้างสารเคลือบฟันที่แข็งแรง ซึ่งเป็นชั้นนอกของฟันที่แข็งซึ่งช่วยปกป้องฟันจากการผุ นอกจากแคลเซียมแล้ว ผลิตภัณฑ์จากนมยังมีฟอสฟอรัสและเคซีน ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพฟัน สารอาหารเหล่านี้ช่วยต่อต้านกรดที่เป็นอันตรายในปากและส่งเสริมการคืนแร่ธาตุของเคลือบฟัน
อาหารที่แนะนำ
- ผักใบเขียว เช่น ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า
- ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น เต้าหู้อ่อน งาดำ
- นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต
- สัตว์ตัวเล็กที่สามารถรับประทานกระดูกหรือเปลือกได้ เช่น กุ้งแห้ง ปลาตัวเล็ก
2. อาหารที่มีวิตามิน A
วิตามินเอซึ่งช่วยเสริมสร้างเคลือบฟัน ช่วยสร้างเมือกให้เยื่อบุผิวในช่องปาก ทำให้การไหลเวียนของน้ำลายดีขึ้น และบำรุงเหงือกให้แข็งแรงสมานแผลในช่องปากให้หายไวขึ้น
อาหารที่แนะนำ
- ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ปวยเล้ง บรอกโคลี
- ผักสีส้ม สีเหลือง เช่น แคร์รอต มันเทศ ฟักทอง และผักตระกูลน้ำเต้า
- มะเขือเทศ, พริกหวานสีแดง, แคนตาลูป,มะม่วง
- ตับวัว,น้ำมันปลา,นม,ไข่
3. อาหารที่มีวิตามิน C
วิตามินซีจะช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อรักษาโครงสร้างเหงือกและส่วนอื่นในช่องปาก หากขาดวิตามิน C อาจทำให้เหงือกอักเสบ ภาวะเลือดออกตามไรฟัน รวมถึงโรคลักปิดลักเปิดด้วย
อาหารที่แนะนำ
- ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว (เช่น ส้ม สัปปะรด) หรือ ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี มะละกอ
- ผักสีเขียวเข้ม เช่น ผักโขม กะหล่ำปลี บรอกโคลี มะเขือเทศ มันฝรั่ง
4. อาหารที่มีเส้นใย
ในเส้นใยอาหารจะช่วยทำหน้าที่ขัดฟันเพื่อกำจัดคราบแบคทีเรียที่เกาะอยู่ตามผิวฟัน และช่วยทำให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายมากขึ้นเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกในช่องปาก
อาหารที่แนะนำ
- อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ผักบุ้งไทย ใบชะพลู กระเจี๊ยบเขียว ผักหวาน แครอท ถั่วเขียว ฝรั่ง แอปเปิล ถั่วลิสง งา เมล็ดทานตะวัน
- อาหารที่มีเส้นใยอาหารปานกลาง เช่น กะหล่ำปลี เห็ด ข้าวโพดต้ม ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท มะกะโรนี สปาเก็ตตี้ น้อยหน่า กล้วย ส้มเช้ง มะม่วงดิบ มะละกอสุก พุทรา
- อาหารที่มีเส้นใยอาหารน้อย เช่น ข้าวขาวขัดสี ขนุน ชมพู่ แตงกวา แตงโม แตงไทย ลิ้นจี่ มะปราง
5. อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต
อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตจะมีไฟเบอร์ซึ่งช่วยลดคราบหินปูนที่เป็นต้นตอของฟันผุ
อาหารที่แนะนำ
- อาหารจำพวกแป้งที่ไม่ผ่านการมัดสี เช่น ข้าวขาว ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวเหนียว ขนมปัง
- ธัญพืชและผลิตภัณฑ์ เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ข้าวโอ๊ต ซีเรียล มูสลี่
- ผักที่มีแป้งมาก (ผักหัว) เช่น ฟักทอง ข้าวโพด เผือก มันเทศ มันม่วง
อาหารที่ลูกๆ ควรหลีกเลี่ยง เพราะทำลายสุขภาพฟัน
มีอาหารบางชนิดทำลายฟันที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะหลีกเลี่ยงสำหรับลูกน้อย เพื่อลดอาการอักเสบหรือการกัดกร่อนของสภาพฟัน นั่นก็คืออาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต หรืออาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล สำหรับน้ำตาลที่เราทานในแต่ละวันก็มีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกลูโคส น้ำตาลซูโครส หรือแลคโตส และฟรุกโตส ซึ่งอาหารเหล่านี้คือพวกเครื่องดื่มอัดลม ขนมหวาน ลูกอมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเป็นหลัก ล้วนแต่เป็นน้ำตาลที่ทิ้งคราบกัดกร่อนฟันทั้งสิ้น เพราะเป็นน้ำตาลที่จะกลายเป็นเชื้อแบคทีเรีย และสุดท้ายนั้นจะเปลี่ยนสถานะเป็นกรด เสี่ยงทำให้ลูกเกิดฟันผุได้
- อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ทำให้เกิดโรคฟันผุ และผิวเคลือบฟันถูกทำลาย
- ผลไม้รสเปรี้ยว น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลม ทำให้ฟันกร่อน และเกิดอาการเสียวฟันตามมา
- อาหารแข็ง เช่น กระดูกหรือน้ำแข็ง เพราะอาจทำให้ฟันร้าว ฟันบิ่นและแตกหักได้
- น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีฟลูออไรด์สูง เนื่องจากฟลูออไรด์ที่มากเกินไปจนอาจเกิดภาวะฟันตกกระ
- อาหารรสจัด เช่น เปรี้ยวจัด ร้อนจัด เย็นจัด ป้องกันฟันสึก
ควรแปรงฟันหลังอาหารให้ลูกทุกมื้อหรือไม่ ?
พ่อแม่ควรแปรงฟันให้ลูกน้อยวันละ 2 ครั้ง คือเวลาตื่นเช้าและก่อนนอน สามารถแปรงฟันระหว่างวันด้วยยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แต่ทันตแพทย์จะไม่แนะนำให้แปรงฟันทันทีหลังทานอาหารเสร็จ แต่แปรงควรอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เพราะพวกน้ำตาลและกรดที่ติดอยู่บนเคลือบฟันอ่อนลง ถ้าแปรงทันทีอาจทำให้เคลือบฟันเสียหายได้
คำแนะนำจากทันตแพทย์ส่งถึงคุณพ่อคุณแม่
- ผู้ปกครองควรพาลูกมาพบทันตแพทย์เพื่อให้ฟลูออไรด์ หรือฟลูออไรด์วานิช ซึ่งป้องกันฟันผุได้ดี
- หลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ควรฝึกให้ลูกแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปาก
- ฝึกให้ลูกน้อยทำความสะอาดบริวณซอกฟัน ด้วยไหมขัดฟัน อย่างน้อย 1 ครั้งก่อนนอน
- แม้ดูแลสุขภาพช่องปากเป็นอย่างดี ก็ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน
การดูแลสุขภาพฟันของลูกไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญ ใส่ใจอาหารบำรุงฟันของลูกก็สามารถเริ่มทำได้ที่บ้านอย่างง่าย ๆ สามารถอุ่นใจได้ว่าเจ้าตัวน้อยคุณจะมีฟันแข็งแรงและสามารถป้องกันฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลใจด้วย
สุดท้ายนี้คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่อยากหาผู้ช่วยดูแลฟันซี่แรกให้แก่ลูกน้อย ก็สามารถพาเจ้าตัวเล็ก มาพบคุณหมอได้ที่ TDH Kids ศูนย์ทันตกรรมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งมีทีมคุณหมอฟันเด็กเฉพาะทางคอยให้การดูแลรักษาด้านทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพฟัน การเคลือบฟลูออไรด์ การอุด ถอน ขูดหินปูน การรักษารากฟัน การครอบฟันเด็ก ไปจนถึงการจัดฟันในเด็ก ซึ่งมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย สนใจปรึกษาหรือทำฟันเด็กกับ TDH Kids ติดต่อได้ที่ 02-744-7114 และ 089-744-7114