คู่มือสำหรับพ่อแม่ เพื่อดูแลฟันซี่แรกของลูกให้แข็งแรง

การดูแลฟันทารกอย่างถูกวิธี ไม่จำเป็นต้องรอให้น้องๆ มีฟันขึ้นเต็มปาก หรือรอให้ฟันแท้ขึ้นครบก่อน คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มใส่ใจดูแลฟันของลูกน้อยตั้งแต่ตอนที่ฟันซี่แรกเริ่มขึ้นได้เลย เพราะฟันน้ำนมที่แข็งแรงนั้นเป็นพื้นฐานของสุขภาพปากและฟันที่ดีในอนาคต ในบทความนี้ เราจะพาไปดูกันว่าฟันน้ำนมของเด็กๆ มีความสำคัญอย่างไร ปัญหาอะไรบ้างที่เจอได้เมื่อลูกเริ่มมีฟันขึ้น แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มดูแลสุขภาพฟันให้ลูกน้อยได้ยังไงบ้าง

ฟันน้ำนมสำคัญอย่างไร

แม้ฟันน้ำนมจะเป็นฟันชั่วคราวที่จะหลุดออกเมื่อเด็กๆ โตขึ้น แต่พ่อแม่ก็ไม่ควรละเลย ไม่ใส่ใจ หรือรอให้เด็กมีปัญหาฟันผุก่อนถึงพามาหาหมอ เนื่องจากฟันน้ำนมเป็นสิ่งที่ต้องใช้บดเคี้ยวอาหาร และช่วยในการออกเสียงพูด หากเด็กมีปัญหาฟันผุ ปวดฟันบ่อย ก็อาจส่งผลให้หนูๆ กินอาหารได้น้อย เคี้ยวอาหารลำบาก โตช้า พูดไม่ชัด ขาดสมาธิในการเรียน หรืออายเพื่อน รวมถึงหากสูญเสียฟันน้ำนมเร็วเกินไป ก็อาจทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมานั้นซ้อนเก หรือขึ้นผิดตำแหน่งได้ การดูแลฟันน้ำนมให้แข็งแรงและหลุดตามเวลาที่เหมาะสม จึงอาจช่วยให้เด็กๆ มีฟันแท้ที่เรียงสวย และมีรูปหน้าที่สมบูรณ์ในอนาคตด้วย

ปัญหาที่มักพบเมื่อฟันซี่แรกเริ่มขึ้น

ตามปกติฟันซี่แรกของลูกน้อยจะเริ่มขึ้นเมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป หรือในระหว่าง 2 – 10 เดือน โดยฟันที่ขึ้นมาก่อนมักจะเป็นฟันหน้าด้านล่าง ซึ่งปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่อาจพบเจอได้เมื่อลูกเริ่มมีฟันซี่แรกขึ้น ได้แก่

  • เด็กมีฟันขึ้นช้ากว่าปกติ หรือช้ากว่า 10 เดือน เนื่องจากเด็กบางคนอาจมีเนื้อเยื่อที่เหงือกหนาแน่นมากจนฟันแทรกขึ้นมาไม่ได้ และหากลูกอายุเกิน 18 เดือนไปแล้วฟันยังไม่ขึ้น ก็อาจส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กได้ ดังนั้น หากสังเกตว่าลูกมีฟันขึ้นช้า ผู้ปกครองก็ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์
  • เด็กมีอาการคันเหงือก มันเขี้ยว ชอบเอาสิ่งของเข้าปากเพื่อกัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กที่ฟันกำลังขึ้น แต่หากเห็นว่าลูกปวดเหงือกมาก มีอาการเหงือกบวม แดง อักเสบ มีไข้ หรือไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน พ่อแม่ก็ควรพาลูกน้อยไปหาหมอ
  • เด็กมีฟันผุ เนื่องจากพ่อแม่อาจละเลยการดูแลฟันอย่างถูกต้อง หรือปล่อยให้เด็กหลับพร้อมกับขวดนมโดยไม่ได้แปรงฟันก่อนนอน ซึ่งก็อาจทำให้เด็กมีฟันผุหลายซี่ในภายหลังได้

วิธีดูแลสุขภาพฟันตั้งแต่ซี่แรกให้ลูก

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันของลูกน้อย เทคนิคการดูแลฟันเด็กตั้งแต่ซี่แรกที่พ่อแม่ทุกคนควรรู้ มีดังนี้

1. พาลูกน้อยไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น

เมื่อฟันซี่แรกโผล่พ้นเหงือก ผู้ปกครองควรพาเด็กๆ ไปพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด หรืออย่างช้าก็ไม่ควรเกินช่วงอายุ 1 ปี เพื่อให้คุณหมอตรวจสุขภาพช่องปากและฟันว่าปกติดีหรือไม่ และให้คำแนะนำพ่อแม่ในการดูแลฟันอย่างถูกวิธี รวมถึงยังเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้แก่เด็กๆ ในการมาพบหมอฟันด้วย ซึ่งที่ TDH เรามีทันตแพทย์เฉพาะทางสำหรับเด็กที่เข้าใจระบบฟันของเด็กและจิตวิทยาของเด็ก ผู้ที่จะทำให้ประสบการณ์ในการมาหาหมอฟันของน้อง ๆ หนู ๆ นั้นผ่านไปได้ด้วยดี

2. ปรับพฤติกรรมการกินของลูกน้อย

หลังจากฟันน้ำนมขึ้น เด็กๆ หลายคนอาจยังติดกินนมจากขวด หรือหลับไปพร้อมกับขวดนม ซึ่งก็อาจเป็นสาเหตุให้เด็กฟันผุได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรฝึกให้ลูกดื่มนมและน้ำจากแก้วแทน และทำความสะอาดฟันให้เรียบร้อยก่อนนอนทุกครั้ง รวมถึงควรให้เด็กเลิกการกินนมมื้อดึก และหลีกเลี่ยงการทานขนมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเยอะๆ ด้วย

3. ดูแลช่องปากด้วยการแปรงฟันที่ถูกวิธี

โดยการใช้ยาสีฟันสำหรับเด็กที่ผสมฟลูออไรด์ บีบใส่แปรงในขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร แปรงวนเบาๆ ที่ฟัน ลิ้น และภายในช่องปาก จากนั้นจึงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดฟองออก โดยพ่อแม่ควรแปรงฟันให้ลูกทุกเช้าและเย็น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหาร

4. เลือกใช้แปรงสีฟันที่เหมาะกับช่องปากลูกน้อย

แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปที่เพิ่งเริ่มมีฟันขึ้น จนถึงอายุ 3 ปี ควรเป็นแปรงขนอ่อนนุ่มที่มีจำนวนขนแปรง 3 x 4-6 แถว จากนั้นเมื่อลูกน้อยโตขึ้น จึงเปลี่ยนขนาดแปรงสีฟันให้เหมาะสมกับช่วงวัยตามคำแนะนำของทันตแพทย์

 

ดูแลฟันน้ำนม ฟันซี่แรกของลูก

จำเป็นแค่ไหนที่ต้องเคลือบฟลูออไรด์ในเด็ก

ฟลูออไรด์เป็นสารที่ช่วยให้โครงสร้างฟันแข็งแรง และทนทานต่อกรดที่เกิดจากแบคทีเรียในช่องปาก ทั้งนี้ แม้เด็กจะใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์อยู่แล้ว แต่โดยทั่วไปยาสีฟันสำหรับเด็กจะมีปริมาณฟลูออไรด์น้อยกว่ายาสีฟันทั่วไป เนื่องจากเด็กมีโอกาสจะกลืนยาสีฟันและได้รับผลกระทบจากฟลูออไรด์ที่มากเกินไปได้ ดังนั้น การเคลือบฟลูออไรด์ในเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันและชะลอฟันผุในระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะในเด็กที่มีความเสี่ยงจะเกิดฟันผุได้

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่อยากหาผู้ช่วยดูแลฟันซี่แรกให้แก่ลูกน้อย ก็สามารถพาเด็กๆ มาพบคุณหมอใจดีได้ที่ TDH Kids ศูนย์ทันตกรรมสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปีโดยเฉพาะ ซึ่งมีทีมคุณหมอฟันเด็กเฉพาะทางคอยให้การดูแลด้านทันตกรรม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพฟัน การเคลือบฟลูออไรด์ การอุด ถอน ขูดหินปูน การรักษารากฟัน การครอบฟันเด็ก ไปจนถึงการจัดฟันในเด็ก ซึ่งมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งการบริการและสถานที่ของคลินิกยังถูกออกแบบมาเพื่อน้องๆ หนูๆ โดยเฉพาะ

สนใจปรึกษาหรือทำฟันกับ TDH Kids ติดต่อได้ที่ 02-744-7114 and 089-744-7114