รากฟันเทียมติดแน่นถาวร เคี้ยวอาหารทุกมื้อได้แบบไม่กลัวหลุด

หลายๆ คนที่ใส่ฟันปลอมมักจะไม่ค่อยมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันเท่าไรนัก โดยเฉพาะช่วงเวลาในการทานอาหาร เพราะฟันปลอมอาจหลุดในระหว่างเคี้ยวอาหารได้ จึงทำให้ผู้ที่ใส่ฟันปลอมไม่ค่อยมีความมั่นใจ จนอาจส่งผลต่อบุคลิกภาพโดยรวมได้ ซึ่งการใส่รากฟันเทียมถือว่าเป็นคำตอบในการอุดช่องว่างของการใส่ฟันปลอม เพราะติดแน่นถาวร เคี้ยวอาหารหรือพูดคุยได้เต็มที่แบบไม่ต้องกลัวหลุด หรือคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับรากฟันเทียมกับฟันปลอม สามารถอ่านบทความเปรียบเทียบความแตกต่างของรากฟันเทียมกับฟันปลอมเพิ่มเติมได้

การใส่รากฟันเทียม คืออะไร ?

รากฟันเทียมทำมาจากวัสดุที่เข้ากันได้ดีกับร่างกายของเรา ใช้ทดแทนฟันที่หายไปได้ทั้งส่วนของรากและส่วนตัวฟัน รากฟันเทียมโดยทั่วไปในยุคปัจจุบันมักเป็นเกลียวหรือทรงกระบอกที่ทำมาจากโลหะไทเทเนียม

ไทเทเนียมเป็นโลหะที่พิเศษ กล่าวคือ มันจะยึดติดกับกระดูกโดยไม่มีชั้นใดๆ มาขวางกั้น การที่ไทเทเนียมยึดแน่นกับกระดูกนี้ เรียกกันว่า Osseointegration ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของไทเทเนียมคือ มันจะไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ร่างกายยอมรับได้ดี ไม่มีการอักเสบของเนื้อเยื่อช่องปาก และเพราะคุณสมบัติที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในร่างกายมนุษย์ จึงมีการใช้ไทเทเนียมกันอย่างกว้างขวางในทางการแพทย์ เช่น การฝังเข้าไปในสะโพก หัวเข่า ฯลฯ

โดยทั่วไปแล้ว รากฟันเทียมจะมีความยาวตั้งแต่ 6-15 มิลลิเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 มิลลิเมตร ปัจจุบัน มีหลากหลายบริษัทผู้ผลิตรากฟันเทียม แต่มีเพียงไม่กี่ระบบที่มีผลการศึกษาและวิจัยถึงผลการใช้งานในระยะยาว

ใส่รากฟันเทียมอย่างไร ?

ต้องมีการวางแผนการรักษาที่ดีและครอบคลุมก่อนในขั้นแรก ภาพถ่ายรังสีและแบบจำลองฟันที่ได้จากการพิมพ์ปากจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการประเมินปริมาณกระดูกในแง่ของความกว้างและลึก ดังนั้นจะสามารถวางแผนสำหรับเลือกขนาดของรากฟันเทียมที่เหมาะสมได้

การทำรากฟันเทียมเป็นกระบวนการทางศัลยกรรมที่ทำภายใต้ภาวะปลอดเชื้อ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 45-90 นาที โดยใช้ยาชาเฉพาะที่ จึงไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด เมื่อเหงือกและเนื้อเยื่อหมดความรู้สึก (ชา) ทันตแพทย์ก็จะเปิดเหงือออกอย่างระมัดระวัง แล้วกรอกระดูกจนมีขนาดพอเหมาะกับรากฟันเทียมที่เลือกไว้ แล้วใส่รากฟันเทียม (เฉพาะในส่วนของราก) ลงไป จากนั้น ก็จะเย็บปิดเหงือกด้านบนเอาไว้ รอเวลาให้แผลหาย โดยในระหว่างนี้ อาจมีฟันปลอมให้ใช้งานไปก่อนได้ แล้วแต่กรณี

หลังจากรอแผลหายและรากเทียมยึดแน่นกับกระดูก จากนั้นประมาณ 3 เดือน ทันตแพทย์จะมีการนัดมาพิมพ์ปากเพื่อทำครอบฟันมาต่อเข้ากับรากเทียม โดยจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการทำครอบฟัน

ใส่รากฟันเทียม “ดี” อย่างไร ?

รากฟันเทียมทำให้การใส่ฟันติดแน่นแบบถาวร ทำให้ฟันยึดติดแน่นคงทน ไม่เสี่ยงต่อการหลุดหรือเคลื่อนที่ออกมาในระหว่างวันเหมือนการใส่ฟันปลอม ดังนั้นการใส่รากฟันเทียมจึงเข้ามาทดแทนช่องว่างของการใส่ฟันปลอม โดยเฉพาะการบดเคี้ยวอาหารที่คนไข้สามารถใช้ฟันซี่นั้น ๆ บดเคี้ยวได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลว่าฟันจะหลุดนั่นเอง

การใส่รากฟันเทียมที่คลินิกทันตกรรม TDH Dental ดำเนินการโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดังนั้นจึงทำให้คนไข้รู้สึกมั่นใจในทุกกระบวนการของการใส่รากฟันเทียมได้ และที่สำคัญยังเลือกใช้แต่วัสดุคุณภาพดี ปลอดภัย ยิ่งช่วยเพิ่มให้การใส่รากฟันเทียมติดแน่น คงทนยิ่งกว่าการใส่ฟันปลอม ทำให้คนไข้สามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ไม่ต้องกลัวฟันหลุดในระหว่างเคี้ยวอาหารอีกต่อไป