แก้ปัญหาโครงสร้างของใบหน้า ด้วยการจัดฟันแบบใส Invisalign
ทุกวันนี้การจัดฟันแบบใส หรือ Invisalign กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ดาราเซเลบนิยมกันมาก เพราะเป็นรูปแบบของการจัดฟันที่มีความสามารถในการปรับรูปหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ไปพร้อม ๆ กับการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ของฟันได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใสยังสามารถทำได้ทั้งในเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันซึ่งพบได้บ่อย เช่น ฟันซ้อนเกแต่เด็ก เนื่องจากการดูดนิ้ว หรือฟันน้ำนมผุ รวมไปถึงปัญหาฟันห่าง ฟันสบลึก ฟันไม่สบ ซึ่งหากปล่อยไว้ก็อาจส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร การพูด และรูปทรงหน้าในอนาคตได้ การจัดฟัน Invisalign ตั้งแต่อายุยังน้อยจึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก เพราะในวัยกำลังเจริญเติบโตจะสามารถขยับเคลื่อนฟันและปรับโครงสร้างใบหน้าได้มากกว่าในวัยผู้ใหญ่นั่นเอง
รู้จักกับการจัดฟันแบบใส Invisalign
การจัดฟันแบบใส (Invisalign) คือการจัดฟันแบบที่ไม่ใช่การติดลวดโลหะจัดฟัน แต่เป็นการช้อุปกรณ์จัดฟันอย่าง Aligner ที่มีความใสซึ่งสวมเข้าไปเพื่อทำการเคลื่อนฟันอย่างช้า ๆ คิดค้นโดยบริษัท Align Technology จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (US FDA) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 และมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยอุปกรณ์จัดฟันใสทำมาจากวัสดุพลาสติกชนิดพิเศษที่เรียกว่า SmartTrack ซึ่งมีความบางแต่ทนทานสูง มีความแข็งแรง และยืดหยุ่น โดยจะถูกออกแบบและทำขึ้นมาให้พอดีกับรูปฟันของแต่ละคนโดยเฉพาะ
ในขั้นตอนการปรึกษาจัดฟัน จะเริ่มจากการสแกนรูปฟันด้วยเครื่องสแกน 5 มิติ (iTero Element 5D) ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีระบบ Fully Digital ของ TDH Dental ทั้งการใช้ภาพถ่าย, X-Ray, CT-Scan และ Morpheus 3 Dimensional Scanner จากนั้นทันตแพทย์จะวางแผนการรักษาผ่านโปรแกรม ClinCheck พื่อให้เห็นการเคลื่อนตัวของฟันตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งเสร็จสิ้นการรักษา ก่อนจะส่งทำอุปกรณ์จัดฟันแบบใสที่พอดีกับรูปฟันให้คนไข้นำกลับไปสวม โดยในระหว่างการจัดฟันจะมีการติดตามการเคลื่อนที่ของฟันและเปลี่ยนชุดอุปกรณ์เป็นระยะๆ จนกว่าจะได้ฟันที่เข้าที่เรียงสวยตามต้องการ
จุดเด่นของการจัดฟันแบบ Invisalign
- เป็นการจัดฟันแบบไม่เห็นเหล็ก ไม่มีการใส่อุปกรณ์โลหะ จึงรู้สึกสบายเวลาสวมใส่สร้างความมั่นใจเวลายิ้มหน้ากล้องได้ดียิ่งกว่า
- ใช้เวลาในการจัดฟันน้อยลง เมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบใสใช้เวลาสั้นกว่าเฉลี่ยราว 10 เดือน แถมยังลดความถี่ในการมาพบทันตแพทย์ด้วย
- ช่วยลดการถอนฟันโดยไม่จำเป็น และไม่เป็นการทำลายรากฟัน
- อุปกรณ์สามารถถอดออกได้ จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการกินอาหารและการทำความสะอาดฟัน
- ผู้ที่ผ่านการจัดฟันใส มีการรีวิวว่าการจัดฟันใสนั้นเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบโลหะ หมดปัญหาลวดทิ่มกระพุ้งแก้ม
Invisalign ตัวช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างใบหน้า
การจัดฟันแบบ Invisalign จะช่วยปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาที่เกิดจากการเรียงตัวของฟันได้ เช่น ฟันซ้อนเก ฟันบนหรือฟันล่างยื่น ฟันสบไขว้ ฟันไม่สบ ฟันห่าง หรือโครงหน้าไม่เข้ารูป ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับที่ดาราหลาย ๆ คนเลือกการจัดฟันแบบใสที่ TDH Dental เพราะการจัดฟันที่นี่จะมีการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าด้วยเทคนิค Aesthetic Norms เพื่อดูองศาของอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้า หาสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบของแต่ละคน และวางแผนการจัดฟัน โดยจำลองการขยับของฟันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นรูปฟันที่สวยพอดีรับกับองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งดวงตา จมูก ริมฝีปาก และรูปคาง ซึ่งถือเป็นการแก้ไขโครงสร้างใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ เจ็บตัวน้อย ช่วยมอบรอยยิ้มที่มั่นใจ แถมยังช่วยลดปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียงตัวของฟัน เช่น การเคี้ยว-การพูดผิดปกติ หรือฟันผุง่ายเนื่องจากฟันซ้อนเกจนทำความสะอาดยาก เป็นต้น
จัดฟันแบบใส ไม่ต้องกังวลเรื่องเหล็กทิ่มแก้ม
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของคนที่จัดฟันแบบโลหะ ก็คือการถูกเหล็กทิ่มกระพุ้งแก้ม หรือโดนลวดจัดฟันแทงเหงือกจนทำให้มีอาการเจ็บแสบ ระคายเคืองในช่องปาก กินอาหารลำบาก แถมเสี่ยงจะเกิดแผลในปากจากการเสียดสี ที่ทำให้เกิดการอักเสบและปัญหากลิ่นปากตามมาด้วย ซึ่งสาเหตุของเหล็กทิ่มแก้มขณะจัดฟัน ก็มีได้ตั้งแต่การทานอาหารที่เคี้ยวยากหรือแข็งเกินไป การแปรงฟันแรงๆ การเอาลิ้นดุนเหล็กจัดฟันบ่อยโดยไม่ระวัง อุบัติเหตุการกระแทกเสียดสี ไปจนถึงวัสดุที่ใช้จัดฟันมีคุณภาพไม่ดี
แต่หากเป็นการจัดฟันแบบใส หรือ Invisalign ก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาลวดทิ่มแก้มอีกต่อไป เพราะการจัดฟันแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใส่เหล็ก อีกทั้งตัวอุปกรณ์จัดฟันใสยังมีความบางและยืดหยุ่น ทำให้สวมใส่สบายกว่า ไม่เสียดสีระคายเคืองในช่องปาก แถมยังสามารถถอดออกได้ในเวลาทานข้าวหรือแปรงฟัน จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคี้ยวและการทำความสะอาด