คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนมีความต้องการให้ลูกจัดฟัน เพราะกังวลว่าฟันของลูกดูไม่สวย หรือฟันของลูกใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือแม้กระทั่งฟันที่เรียงตัวไม่สวยจนส่งผลต่อใบหน้าของลูก แต่พ่อแม่ก็ยังลังเลและเกิดความสงสัยว่า การจัดฟันใสสามารถจัดตอนที่ฟันน้ำนมยังหลุดไม่หมดได้ไหม ? หรือต้องรอฟันแท้ขึ้นให้หมดก่อนค่อยไปจัดฟัน วันนี้เราจึงพาคุณพ่อคุณแม่มาคลายข้อสงสัยเหล่านี้ เพื่อส่งมอบฟันสวยให้กับลูกน้อยกัน
การจัดฟันใสเด็ก Invisalign คืออะไร
จัดฟันใสเด็ก Invisalign First & Teen เป็นการจัดฟันใสสำหรับเด็กและวัยรุ่น จะเริ่มตั้งแต่เด็กในช่วงอายุ 6 ขวบที่ฟันแท้คู่แรกเริ่มขึ้นจนถึงอายุ 19 ปี ซึ่งต่างจากการจัดฟันแบบใส Invisalign ทั่วไปที่ทำในผู้ใหญ่ตรงที่เป็นการจัดฟันแบบใสในเด็กและวัยรุ่นที่กำลังมีการเจริญเติบโต ทำให้สามารถขยับฟันได้มากกว่า ปรับโครงหน้าได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์แบบ และในเด็กและวัยรุ่นไม่มีข้อจำกัด
การจัดฟันใสนี้สามารถเริ่มต้นจัดฟันได้ตั้งแต่ฟันแท้ยังไม่ขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือสามารถจัดฟันใสได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมยังไม่หลุด ซึ่งมีพ่อแม่หลายคนที่รอให้ฟันน้ำนมลูกหลุดหมดก่อน จึงค่อยพาลูกจัดฟันใส แต่ความจริงแล้วการจัดฟันชนิดนี้สามารถทำได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมยังหลุดไม่หมด เพราะสามารถจัดได้ง่ายกว่าและสามารถปรับโครงสร้างขากรรไกรได้ง่ายกว่าอีกด้วย
ข้อดีของการจัดฟันแบบ Invisalign ระหว่างฟันน้ำนมกับฟันแท้
การจัดฟัน Invisalign หรือการจัดฟันใสนั้น เมื่อเทียบกับการจัดฟันด้วยวิธีอื่น ๆ ถือว่ามีความสะดวกและคล่องตัวต่อคนไข้มากกว่า เพราะเจ็บน้อยกว่า อีกทั้งแทบมองไม่เห็นเครื่องมือที่ใช้จัดฟันถ้าไม่สังเกตดี ซึ่งการจัดฟันชนิดนี้ตั้งแต่ฟันน้ำนมถือว่ามีข้อได้เปรียบมากกว่าจัดฟันตอนฟันแท้ เช่น
1. ปรับโครงขากรรไกรได้
การจัดฟันแบบใส Invisalign First & Teen ในเด็กไม่จำเป็นต้องรอให้โตเสมอไป สามารถจัดได้เลยตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เพราะปรับโครงสร้างขากรรไกรได้สมบูรณ์แบบเกือบ 100% ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนที่เหมาะสม เกิดความสมดุลทั้งใบหน้า เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี นอกจากนี้ในเด็กที่อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพราะปัญหาขากรรไกรยื่น หากจัดฟันแบบใส Invisalign แล้วแก้ปัญหาได้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด
2. เครื่องมือที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเด็กโดยเฉพาะ
เครื่องมือ Invisalign First & Teen ของเด็กจะมีปีกเล็ก ๆ ยื่นออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตที่ข้อต่อขากรรไกร ทำให้ขากรรไกรล่างขยับออกมาด้านหน้าพอดีกับขากรรไกรด้านบน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับทันตแพทย์เป็นสำคัญ เพราะการจัดฟันแบบใสสำหรับเด็กและวัยรุ่นนั้นถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ที่สร้างขึ้นจากการวิเคราะห์เป็นรายเคส จึงสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้จริง
เครื่องมือ Invisalign First & Teen สำหรับเด็ก
3. สบายเมื่อสวมใส่
ปัญหาสำคัญในการจัดฟันของเด็กและวัยรุ่นคือ หากเครื่องมือใส่แล้วไม่สบายอาจไม่ได้รับความร่วมมือในการจัดฟัน เครื่องมือในการจัดฟันใสสำหรับเด็กและวัยรุ่นจึงถูกออกแบบมาให้มีความหนาเพียง 0.75 มิลลิเมตร ใส่สบาย ไม่รบกวนเหงือก จับเฉพาะแค่ตัวฟัน ไม่ส่งผลต่อการออกเสียงและพูดได้ชัดเจน
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใสเด็ก Invisalign First & Teen
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใสในเด็กและวัยรุ่น ประกอบด้วย
- สแกนฟัน โดยใช้เวลาเพียง 3 นาที ผู้ปกครองและเด็กจะได้เห็นภาพฟันปรากฏบนหน้าจอแสดงผล จากการสแกนด้วยเครื่อง iTero Element 5D ซึ่งในขั้นตอนนี้ทันตแพทย์จะอธิบายลักษณะปัญหาของฟันโดยละเอียด
- หลังจากสแกนฟัน 2 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายเพื่ออธิบายลักษณะการเคลื่อนฟัน ระยะเวลาในการจัดฟัน กระบวนการจัดฟันตามแผนที่วางไว้ พร้อมทั้งผลลัพธ์ที่ปรากฏหลังจากจัดฟันเสร็จเรียบร้อย (Clinical Check Plan) โดยจะแสดงภาพบนหน้าจอให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงแค่มีฟันที่สวยงาม มีรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบ แต่ยังรวมถึงการมีโครงหน้าที่สมดุลได้รูป เสริมบุคลิกภาพให้มั่นใจดูดียิ่งกว่าเดิม
- ทันตแพทย์จะทำการนัดหมายเพื่อมารับเครื่องมือหลังจากอธิบายรายละเอียดการจัดฟันประมาณ 4 สัปดาห์ โดยคนไข้จะได้รับเครื่องมือประมาณ 20 – 30 ชิ้น พร้อมวิธีการใส่อย่างละเอียด และนัดพบแพทย์ทุก 8 – 10 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เครื่องมือสำหรับเด็กอายุ 6 – 10 ปี จะเปลี่ยนสัปดาห์ละครั้ง เด็กอายุ 11 – 19 ปี เครื่องมือจะเปลี่ยนสัปดาห์ละครั้งในช่วงแรกและในช่วงหลังอาจเปลี่ยนเครื่องมือทุก ๆ 10 วัน ขึ้นกับคำแนะนำของทันตแพทย์
การจัดฟัน Invisalign First & Teen ในฟันน้ำนมจึงมีข้อดีในด้านต่าง ๆ ตามที่เรากล่าวมา นอกจากจะปรับสมดุลของใบหน้าได้ง่ายแล้ว ยังช่วยให้เรื่องของการพูด การใช้ชีวิตประจำวันที่ทำให้เด็กค่อย ๆ เรียนรู้และปรับตัวได้ดีขึ้นด้วย หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่กำลังมองหาคลินิกสำหรับจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อที่คลินิก TDH ได้เลย เพราะเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้งยังมีหมอฟันสำหรับเด็กที่เข้าใจธรรมชาติของเด็กในการเข้ารับการรักษา รวมทั้งยังให้การรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ มีเครื่องมือที่มีความทันสมัยอีกด้วย
หรือถ้าคุณอยากหาผู้ช่วยสำหรับดูแลสุขภาพช่องปากของลูก สามารถขอคำปรึกษาออนไลน์ด้วย Dentist Anywhere by TDH Dental ประสบการณ์ใหม่ของวงการทันตกรรม คุณจะได้พูดคุยปรึกษาปัญหาสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์ได้โดยตรง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เพียงเท่านี้การดูแลช่องปากและฟันก็กลายเป็นเรื่องง่ายและไม่ยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว